ความสำคัญวันปีใหม่ สวัสดีวันปีใหม่พา ให้บรรดาเราท่านรื่นรมย์ ฤกษ์ยามดีเปรมปรีดิ์ชื่นชม ต่างสุขสมนิยมยินดี…ได้เวลาเปิดเพลงแห่งเทศกาล เฉลิมฉลองกันอีกครั้ง workspacez นับถอยหลังอีกไม่กี่วันเท่านั้น ก็จะก้าวเข้าสู่ปีใหม่ บอกลาปีเก่าและเรื่องร้าย ๆ ไปพร้อมเริ่มต้นปีใหม่ที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม
แต่รู้หรือไม่ว่าก่อนจะมาเป็น วันขึ้นปีใหม่ไทย 1 มกราคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่สากล ประเทศไทย เคยมีวันปีใหม่อีกรูปแบบหนึ่งด้วยนะ และนอกเหนือไปจากการเฉลิมฉลอง และปาร์ตี้ เทศกาลวันขึ้นปีใหม่ ยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะมาก อีกทั้งยังมีความสำคัญ บางอย่างที่คุณไม่คาดคิด ที่ตอกย้ำว่าวันขึ้นปีใหม่ในทุก ๆ ปี ไม่ใช่เพียงวันหนึ่งวันธรรมดาเท่านั้น
แต่มีความสำคัญสำหรับคนไทยทุกคน ซึ่งในวันนี้ มีข้อมูลดี ๆ มาฝากทุกคนอีกแล้ว ครั้งนี้ก่อนสวัสดีปีใหม่กันขอมาเปิดประวัติ วันขึ้นปีใหม่ของไทย ให้ทุกคนได้รู้สักนิดว่าวันเฉลิมฉลอง ที่ทุกคนรอคอย มีความเป็นมาสำคัญ อย่างไรตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ปีใหม่ไทยในอดีตไม่ได้เฉลิมฉลองวันที่ 1 มกราคม ? ในอดีตวันขึ้นปีใหม่ของไทย ไม่ใช่วันที่ 1 มกราคมของทุกปีเหมือนดังเช่นปัจจุบัน แต่เคยมีการเปลี่ยนแปลงมาแล้วหลายครั้ง โดยครั้งแรกถือเอาวันแรม 1 ค่ำ เดือนอ้าย เป็นวันขึ้นปีใหม่ซึ่งตรงกับเดือนมกราคม
ต่อมาในครั้งที่สอง กำหนดให้วันขึ้นปีใหม่ตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ตามคติพราหมณ์ ซึ่งตรงกับเดือนเมษายนและได้มีการปรับเปลี่ยนมาเรื่อย ๆ จนต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตย จึงได้ประกาศให้มีงานรื่นเริงวันขึ้นปีใหม่ในวันที่ 1 เมษายน 2477 ขึ้นในกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก ซึ่งในสมัยนั้นเรียกว่า “วันตรุษสงกรานต์”
และท้ายที่สุดจนถึงปัจจุบัน ความสำคัญวันปีใหม่ ได้มีการพิจารณาเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยคณะรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้น ซึ่งมีหลวงวิจิตรวาทการ เป็นประธานกรรมการ ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่เป็นวันที่ 1 มกราคม โดยกำหนดให้วันที่ 1 มกราคม 2484 เป็นวันขึ้นปีใหม่เป็นต้นมา เพื่อยกเลิกการนับปีใหม่ของลัทธิพราหมณ์กับพระพุทธศาสนา โดยใช้วันขึ้นปีใหม่ตามหลักสากลทั่วโลกไม่ให้ขัดต่อหลักพระพุทธศาสนาด้านการนับวัน
อีกทั้งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) นิยมใช้วันขึ้นปีใหม่ในช่วงวันสงกรานต์ ดังนั้นจึงมีชาวไทยส่วนหนึ่งยังคงยึดถือวันสงกรานต์เป็นวันขึ้นปีใหม่ไทยอยู่ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมวันสงกรานต์ไทยจึงมีบรรยากาศเฉลิมฉลองคล้ายกับช่วงเทศกาลปีใหม่ อีกทั้งยังมีหลายคนเรียกติดว่าเป็นวันปีใหม่ไทยอีกด้วย
ความสำคัญวันปีใหม่ ความสำคัญของเทศกาลปีใหม่ต่อคนไทย
วันขึ้นปีใหม่สำหรับ หลายคนอาจมองว่าเป็นเพียงวันธรรมดา ความสำคัญวันปีใหม่ ที่เพียงนอนหลับลืมตาตื่นขึ้นมาก็เปลี่ยนเป็นวันใหม่แล้ว ไม่ได้มีความสำคัยอะไรกับตนเอง แต่รู้หรือไม่ว่าวันปีใหม่หรือช่วงปีใหม่ ยังคงมีความสำคัญ กับใครหลายคนมากกว่าที่คิด เพราะเป็นการเริ่มต้นใหม่และถือเป็นการรีสตาร์ทที่ดีที่สุด วันขึ้นปีใหม่จึงมีความสำคัญดังนี้
- เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้กลับบ้านไปเฉลิมฉลองกับครอบครัว WBET69 โดยเฉพาะคนที่ต้องอยู่ห่างจากครอบครัวเพื่อมาทำงาน อย่างน้อย ๆ ในช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ก็ยังได้มีเวลากลับมาพักกายพักใจที่บ้าน
- หลังจากเศรษฐกิจซบเซามาตั้งแต่ช่วงโควิด-19 และสถานการณ์เศรษฐกิจ ทำให้การค้าขายฝืดเคือง แต่ช่วงปีใหม่หลายบริษัทมีการมอบเงินพิเศษโบนัสให้กับพนักงาน จึงถือเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทางหนึ่ง เพราะคนมีกำลังซื้อมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการซื้อของฝากหรือของขวัญให้ครอบครัว
- เริ่มต้นปีใหม่ด้วยสิ่งดี ๆ อย่างการได้มีเวลาว่างตักบาตร ถวายสังฆทาน ทำบุญที่วัด หรือ ตื่นเช้ามาตักบาตรเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้กับตนเอง
- การเริ่มต้นใหม่มีหลายรูปแบบ บางคนอาจรอให้ถึงช่วงปีใหม่ เพื่อเริ่มงานใหม่ หลังจากหยุดพักหรือเหนื่อยกับงานที่เดิมมามากพอสมควรแล้ว การเริ่มต้นทำงานที่ใหม่ ในช่วงปีใหม่ก็ถือเป็นสิ่งดี ๆ ที่คุณเลือกให้ตนเอง ยังรวมถึงคนทำธุรกิจ อีกด้วยที่รอเปิดธุรกิจช่วงปีใหม่รับปีเพื่อความเฮง
กิจกรรมวันปีใหม่ – สีสันประจำเทศกาลเฉลิมฉลอง
- สวดมนต์ข้ามปี ทำบุญ ตักบาตร เข้าวัด หรือปฏิบัติพิธีกรรมตามศาสนาของตน
- จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ รับประทานอาหารกับครอบครัว เพื่อน และคนรัก
- ซื้อของขวัญปีใหม่พร้อมส่งมอบให้กับคนสำคัญ หรือแลกของขวัญกันภายในกลุ่ม
- ทำความสะอาดบ้าน จัดบ้านใหม่ให้เป็นระเบียบต้อนรับปีใหม่ที่ดีกว่าเดิม
- กราบขอพรจากผู้ใหญ่ในครอบครัว หรือผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ
- ทำอาหารมื้อใหญ่จัดเลี้ยงคนที่บ้าน
- ดูหนังหรือซีรีส์เรื่องโปรดที่บ้าน หรือเปลี่ยนบรรยากาศออกไปดูหนัง
- ออกไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือ เที่ยวต่างประเทศ
และทั้งหมดนี้คือความสำคัญ ความสำคัญ วันปีใหม่ และความเป็นมาของวันขึ้นปีใหม่ไทย หวังว่าปีใหม่นี้ทุกคนที่ได้อ่านบทความนี้จะมีความสุขกายสบายใจ พร้อมละทิ้งความทุกข์ใจในปีเก่า แล้วพร้อมรับปีใหม่ด้วยใจที่สุขสันต์กันถ้วนหน้านะคะ