ลอดช่องสิงคโปร์ เป็นของหวานถ้วยโปรดของใครหลายคน ด้วยเพราะความเข้ากันของน้ำกะทิหอมมัน ความหวานฉ่ำชื่นใจของน้ำเชื่อมกับแป้งลอดช่องเหนียวหนึบ เคี้ยวอร่อย ใส่น้ำแข็งนิดหน่อย กินตอนอากาศร้อนๆ รับรองชื่นอกชื่นใจ หายร้อนเลยทีเดียว บางคนนั้นชอบกินมากจนยกให้เป็นขนมถ้วยโปรด หรืออยากจะทำกินเองให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ซึ่งเราสามารถทำได้ค่ะ ! ในบทความนี้ WBET69 มี สูตรลอดช่องสิงคโปร์ มาฝากกันแล้ว จะทำยากมั้ย ทำได้อย่างไร ไปดูกันเลย
บอก สูตรลอดช่องสิงคโปร์ ทำตามได้ไม่ยาก อร่อยชื่นใจ คลายอากาศร้อน
ก่อนจะไปดูวิธีทำลอดช่องสิงคโปร์ เรามารู้จักกับขนมหวานชนิดนี้กันให้มากขึ้นดีกว่าค่ะ ลอดช่อง เป็นขนมพื้นบ้านที่ทำโดยใช้แป้งข้าวเจ้าเป็นวัตถุดิบหลัก เชื่อว่ามีต้นกำเนิดมาจากอินโดนีเซีย ซึ่งจะเรียกกันว่า “เจ็นดล” ก่อนแพร่หลายไปยังมาเลเซีย เมียนมาร์ เวียดนาม และสิงคโปร์ ซึ่งเป็นไปได้ว่าในแต่ละประเทศจะมีสูตรเฉพาะของตนเอง อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่จะนิยมกินในวันที่อากาศร้อนเพื่อเติมความสดชื่นให้ร่างกาย ต่อมาในประเทศไทยช่วงพ.ศ. 2504 ได้เกิดขนมลอดช่องสิงคโปร์ขึ้น โดยไทยเราจะใช้แป้งมันสำปะหลังแทนแป้งข้าวเจ้าที่เป็นวัตถุดิบทำลอดช่องไทยแบบดั้งเดิม และที่มาของชื่อก็ไม่ได้มาจากประเทศสิงคโปร์นะคะแต่มาจากร้าน “สิงคโปร์โภชนา” ที่ถนนเยาวราชซึ่งเป็นผู้คิดสูตรนี้ จึงเป็นที่มาของชื่อลอดช่องสิงคโปร์นั่นเอง และเกิดเป็นสูตรลอดช่องสิงคโปร์ของทางร้านโดยเฉพาะเลยค่ะ ใครที่ไปเที่ยวเยาวราชกลางวัน ก็อย่าลืมแวะไปลองชิมกันได้นะคะ
ลอดช่องสิงคโปร์ แจกสูตรลอดช่องสิงคโปร์ อร่อยตามได้ง่ายๆ
ปัจจุบันมีลอดช่องสิงคโปร์ขายอยู่ทั่วไป เป็นของหวานที่หาซื้อได้ง่าย แต่ถ้าใครอยากกินแบบดั้งเดิม ก็ต้องไปเยาวราชเพื่อไปลองชิมเจ้าดั้งเดิมให้ได้สักครั้ง เเป็นสูตรลอดช่องสิงคโปร์ ของอร่อยเยาวราชที่ต้องหามพลาดเลยทีเดียว สำหรับคนที่อยากลองทำเองดูบ้าง เราก็มีวิธีทำลอดช่องสิงคโปร์มาฝากแล้วค่ะ จะทำได้อย่างไร ไปเข้าครัวกันเลย !
วัตถุดิบ
- แป้งมันสำปะหลัง 1 ถุง
- น้ำตาลทราย 500 กรัม
- น้ำกะทิ 600 มิลลิลิตร
- นมสด 1 กระป๋อง
- เกลือป่น 2 ช้อนชา
- ขนุนสุก 300 กรัม หั่นเป็นเส้น
- สีม่วงจากดอกอัญชัน 2 ช้อนโต๊ะ
- สีเขียวจากใบเตย 2 ช้อนโต๊ะ
- ใบเตย 3 – 5 ใบ
- น้ำเปล่าสำหรับทำน้ำเชื่อม 500 มิลลิลิตร
- น้ำแข็งบด ตามชอบ
วิธีทำน้ำเชื่อม
- นำเอาหม้อมาตั้งไฟ ใส่น้ำเปล่าลงไป 500 มิลลิลิตร จากนั้นตามด้วยน้ำตาลทราย และเปิดไฟอ่อนๆ ให้น้ำตาลละลายดี
- ล้างใบเตยให้สะอาด พักไว้ เมื่อน้ำตาลละลายดีแล้ว ตัดใบเตยเป็นท่อนๆ แล้วใส่ลงไป เคี่ยวด้วยไฟอ่อนให้มีกลิ่นหอมใบเตย อย่าใช้ไฟแรงเพราะจะทำให้น้ำตาลไหม้ได้
- เคี่ยวจนน้ำเชื่อมเริ่มมีความเหนียวข้น ปิดไฟและยกลงจากเตา
วิธีทำน้ำกะทิ
- เคล็ดลับของสูตรลอดช่องสิงคโปร์ก็คือ ต้องขูดมะพร้าวเองหรือซื้อมะพร้าวขูดที่ยังไม่ได้คั้นน้ำกะทิมาคั้นเอง จะได้น้ำกะทิหอมมัน ไม่บูดง่าย แต่ถ้าหาซื้อไม่ได้จริงๆ ก็สามารถใช้กะทิกล่องแทนได้ค่ะ
- นำน้ำกะทิมาตั้งไฟอ่อนๆ เติมเกลือลงไปเล็กน้อย เคี่ยวประมาณ 10 – 15 นาที หมั่นคนไม่ให้กะทิแตกมัน จากนั้นพักไว้
- แบ่งแป้งมันสำปะหลังออกมา 1 ถ้วยตวง จากนั้นนำแป้งที่เหลือใส่ภาชนะ เทน้ำร้อนลงในแป้งทีละน้อย แล้วค่อยๆ นวดให้เข้ากัน
- เมื่อแป้งจับตัวดีแล้ว แบ่งแป้งออกเป็นสามส่วนด้วยกัน จากนั้นใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำหมาดๆ คลุมไว้
- นำแป้งส่วนที่ 1 มาผสมกับสีม่วงจากดอกอัญชัน นวดให้แป้งและสีเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน เคล็ดลับวิธีทำลอดช่องสิงคโปร์ไม่ให้แป้งตืดมือก็คือ เอามือแตะแป้งมันที่แบ่งเอาไว้ในตอนแรกก่อนทำการนวดแป้ง ซึ่งจะช่วยให้นวดแป้งได้เนียนโดยที่แป้งไม่ติดมือของเราค่ะ
- นำแป้งส่วนที่ 2 ผสมกับสีเขียวจากน้ำใบเตยและนวดให้เข้ากันเหมือนแป้งส่วนที่ 1 และแป้งส่วนสุดท้ายนวดให้เข้ากันโดยไม่ต้องผสมสีเพื่อทำเป็นแป้งสีขาว
- นำแป้งแต่ละสีมาแบ่งคลึงให้เป็นแผ่นบางๆ และตัดให้เป็นเส้น ถ้าเส้นติดกันให้ใช้แป้งมันที่เราแบ่งไว้โรยบางๆ จะช่วยให้แป้งไม่ติดกันได้
- เทน้ำสะอาดใส่หม้อ นำไปตั้งเตาให้น้ำเดือด นำแป้งที่ตัดแล้วลงไปต้ม (แบ่งต้มทีละน้อย อย่าต้มทีเดียว) สังเกตว่าหากแป้งลอยตัวแสดงว่าสุกแล้ว ตักใส่กระชอนเพื่อให้สะเด็ดน้ำได้เลย
วิธีเตรียมลอดช่องสิงคโปร์ สำหรับพร้อมรับประทาน
เมื่อเตรียมส่วนประกอบทั้งหมด ได้แก่น้ำเชื่อม น้ำกะทิ และแป้งลอดช่อง ตามสูตรลอดช่องสิงคโปร์เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาลิ้มรสความอร่อยฝีมือตัวเองกันแล้วค่ะ เตรียมถ้วยให้พร้อม จากนั้นตักแป้งลอดช่องใส่ลงไป ตามด้วยขนุนหั่นเส้น เติมน้ำเชื่อมลงไป ชอบหวานมากก็ใส่มาก ชอบหวานพอดีก็ใส่น้อยหน่อย ตามด้วยกะทิและน้ำแข็งบด ใครจะใส่นมสดเพิ่มความหอมมันลงไปด้วยก็ได้ เพียงเท่านี้ก็จะได้ลอดช่องสิงคโปร์ถ้วยอร่อย กินแล้วสุดแสนชื่นใจ คลายร้อนได้ดีทีเดียว
Inspire Now ! : สูตรลอดช่องสิงคโปร์สูตรนี้ เป็นสูตรหวานปกติ ใครที่ไม่ชอบกินหวานมากหรือต้องการจำกัดปริมาณน้ำตาล จะลดปริมาณน้ำตาลที่ใส่ในน้ำเชื่อมก็ได้นะคะ ส่วนกะทิ จะใช้เป็นกะทิธัญพืชแทนกะทิมะพร้าว ก็จะช่วยลดปริมาณไขมันได้ แต่ความอร่อยอาจจะไม่เท่าแบบดั้งเดิม ทั้งนี้ทั้งนั้น ลอดช่องสิงคโปร์เป็นขนมที่มีปริมาณไขมัน แป้งและน้ำตาลสูง อย่างขนุนก็จัดเป็นผลไม้น้ำตาลสูงอีกด้วย ดังนั้น ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อไม่เป็นการทำร้ายสุขภาพของเราค่ะ…workspacez