ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อเรื่องสุขภาพ มีสีสันสวยงาม ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่มักมีรสเปรี้ยวและรสหวาน มีกลิ่นหอม ชนิดเบอร์รี่มีหลายประเภท มีทั้งเบอร์รี่ผลไซส์เล็กกลมมน เบอร์รี่นั้นเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย บำรุงสายตา ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง รับประทานแล้วไม่อ้วน ช่วยป้องกันไข้หวัด มะเร็งและโรคต่างๆอีกมากมาย ประโยชน์ของเบอร์รี่ 9 ชนิด มีอะไรบ้าง ขอพาทุกท่านไปพบกับเรื่องน่ารู้ของชนิดเบอร์รี่ยอดนิยมว่ามีอะไรบ้าง

  1. บลูเบอร์รี่ (Blueberry)

บลูเบอร์รี่ (Blueberry) เป็น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เพื่อสุขภาพ เป็นไม้ยืนต้น อยู่ในตระกูล Vaccinium ซึ่งสายพันธุ์ที่เป็นที่นิยมมีชื่อทางวิทยาศาตร์ว่า Vaccinium corymbosum ลักษณะต้นเป็นพุ่ม มีความสูงได้ตั้งแต่ 15 เซนติเมตรไปถึง 4เมตร มีผลสีม่วง ผลเล็กกลมแป้น มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน รับประทานง่าย มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือ

มีประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ผลิตและส่งออกมากที่สุด บลูเบอรรี่อุดมด้วยวิตามินหลายชนิด มีประโยชน์ ช่วยลดการเสื่อมของร่างกาย ช่วยเรื่องความจำ และหากรับประทานเป็นประจำจะช่วยลดอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้เป็นอย่างดี ส่วนใหญ่มักจะพบเห็นบลูเบอร์รี่ในเมนูขนมเป็นส่วนมาก เช่น บลูเบอร์รี่ชีสพาย บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก แยมบลูเบอร์รี่ รวมทั้งทานกับโยเกิรต์หรือซีเรียลเป็นอาหารเช้าได้อย่างดี

  1. ราสเบอร์รี่ (Raspberry)

ราสเบอร์รี่ (Raspberry) เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ จัดอยู่ในพืชตระกูล Rubus มีหลายสายพันธุ์ย่อยซึ่งมีทั้งสีแดง ม่วง ม่วงเข้ม สายพันธุ์ที่นิยมแพร่หลายมีชื่อทางวิทยาศาตร์ว่า Rubus idaeus ที่สีแดงอมชมพูเข้ม ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ประโยชน์ มีรสค่อนไปทางรสเปรี้ยว อุดมด้วยกรดเอลลาจิก (Ellagic) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีประโยชน์ช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย แถมยังช่วยป้องกันมะเร็งได้เป็นอย่างดี

โดยมีหลายเมนูที่สามารถใช้ราสเบอร์รี่เป็นส่วนประกอบ เช่น ไอศกรีมราสเบอร์รี่ คัพเค้กราสเบอร์รี่ คุ้กกี้ราสเบอร์รี่ แยมราสเบอร์รี่ และใช้มิกซ์กับสลัดผักก็อร่อยให้รสชาติดี รวมทั้งทานคู่กับโยเกิรต์ได้ดีเช่นกัน

  1. แบล็คเคอร์แรนท์ (Blackcurrant)

แบล็คเคอร์แรนท์มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Ribes nigrum มีต้นกำเนิดจากทวีปยุโรปกลางและยุโรปเหนือ ถูกขนานนามให้เป็นที่สุดของตระกูลเบอร์รี่ ผลเล็กๆ กลมๆ ผิวเรียบเกลี้ยง ปลายของแบล็คเคอร์แรนท์นั้นมีจุกของก้านติดอยู่นิดหน่อย ผลไม้เบอร์รี่  เนื้อชุ่มฉ่ำน้ำ เปรี้ยวอมหวาน มีกลิ่นหอม และเมล็ดทรงรี ซึ่งแบล็คเคอร์แรนท์นี้มีสรรพคุณที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย

เช่น ป้องกันอัลไซเมอร์ ป้องกันโรคมะเร็ง ป้องกันโรคหัวใจ ช่วยบำรุงเลือด และบำรุงประสาท ฯลฯ นิยมใช้ทำอาหาร เครื่องดื่ม สามารถรับประทานได้ทันที ยิ่งแช่เย็นยิ่งอร่อย บางครั้งแช่ฟรีซแล้วรับประทานก็มี workspacez

  1. แบล็คเบอร์รี่ (Blackberry)

แบล็กเบอร์รี่ หรือ แบลคเบอร์รี่ (Blackberry) เป็นพืชในตระกูล Rubus ซึ่งมีหลายสายพันธุ์ มีผลสีดำมีเมล็ดเป็นกลุ่ม ประเทศเมกซิโกเป็นผู้ปลูกแบลคเบอร์รี่รายใหญ่ซึ่งได้รับความนิยมมากในประเทศแถบอเมริกาและยุโรป แบล็คเบอร์รี่มีรสเปรี้ยวอมหวาน ฉ่ำน้ำ มีเส้นใยอาหาร วิตามินซี วิตามินเค วิตามินบี และเกลือแร่ นิยมคั้นน้ำ ปั่นสมูทตี้เพื่อสุขภาพ รับประทานสด เพื่อคลายร้อน ใส่เครป ทำเป็นไอศกรีม ผลไม้บลูเบอร์รี่ สรรพคุณ หรือทำแยมทาขนมปังก็อร่อย รับประทานเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ และโรคหัวใจ ช่วยฟื้นฟูคอลลาเจนของร่างกายได้เป็นอย่างดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

  1. แครนเบอร์รี่ (Cranberry)
    แครนเบอร์รี่ (Cranberry) เป็นผลไม้รสเปรี้ยวสีแดงสด เป็นพืชในตระกูล Oxycoccus ซึ่งในประเทศอังกฤษจะนิยมสายพันธุ์ Vaccinium oxycoccos ส่วนในสหรัฐอเมริการจะนิยมสายพันธุ์ Vaccinium macrocarpon นิยมใช้เป็นยาสมุนไพร และรับประทานป้องกันโรคหัวใจ ไข้หวัด ช่วยป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบและโรคไตได้เป็นอย่างดี อุดมด้วยวิตามินซี มีประโยชน์ ดีต่อสุขภาพ รับประทานสดๆ และคั้นน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพได้เช่นกัน นิยมอบแห้งเพื่อรับประทานด้วยเช่นกัน
  2. กูสเบอร์รี่ (Gooseberry)

กูสเบอร์รี่สีเหลืองทอง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Ribes uva-crispa มีชื่อไทยว่า โทงเทงฝรั่ง เนื้อนุ่มฉ่ำน้ำผลไม้ ลักษณะกลมเกลี้ยง หวานอมเปรี้ยวเหมือนรับประทานมะเขือเทศพร้อมกับสับปะรด มีกลีบเลี้ยงห่อหุ้มไว้ ผลไม้จิ๋วแต่แจ๋วอุดมด้วยวิตามินซี เบอร์รี่มีกี่ชนิด มีประโยชน์มากๆ ป้องกันไข้หวัด ช่วยดูแลสายตา สามารถปรุงเป็นของหวาน แยม ซอส พาย พุดดิ้ง สลัดผลไม้ รับประทานกับน้ำผึ้งก็ดีเยี่ยม เลือกได้ตามความชอบเป็นหลัก

  1. มัลเบอร์รี่ (Mulberry)

จัดเป็นผลไม้ของคนรักสุขภาพโดยแท้ ต้องยกให้มัลเบอร์รี่ (Mulberry) หรือคนไทย เรียกว่า ลูกหม่อน จัดอยู่ในพืชตระกูล Moraceae มีทั้งสีม่วงเข้มจะมีรสหวาน สีแดงอมม่วงรสชาติหวานเปรี้ยว นิยมคั้นน้ำ ทำเป็นแยม และรับประทานสดๆ เช่นเดียวกับเบอร์รี่อื่นๆ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยให้ความจำดีขึ้น ดีต่อสุขภาพ แถมยังต้านมะเร็งอีกด้วย ใบของมัลเบอร์รี่สามารถปรับนำมาตากแห้งชงเป็นชาร้อนได้เช่นกัน ให้กลิ่นหอมอ่อนๆ รสชาติดี

  1. องุ่น (Grape)
    องุ่น (Grape) จัดเป็นหนึ่งในประเภทผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ที่จัดอยู่ในกลุ่ม True Berry ที่เกิดมาจากรังไข่เดียวกัน ใบเลี้ยงเดี่ยว ทางพฤกษศาสตร์จึงจัดว่าองุ่นเป็นเบอร์รี่ สายพันธุ์ที่นิยมมากที่สุดอยู่ในตระกูล Vitis vinifera มีบันทึกว่ามีการเก็บเกี่ยวองุ่นเพื่อบริโภคตั้งแต่ช่วง 6,000 – 8,000 ปีก่อน สำหรับสรรพคุณและประโยชน์ขององุ่นนั้นมีหลากหลาย
  2. เช่น ช่วยต้านมะเร็ง ช่วยลดความดันโลหิตสูง ลดไขมันในเลือด ช่วยบำรุงหัวใจ บำรุงสมอง บำรุงกำลัง แก้อาการกระหายน้ำ อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรงได้เนื่องจากน้ำตาลในองุ่นสามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็วทำให้รู้สึกสดชื่นและยังช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายได้อีกด้วย
  3. สตรอเบอร์รี่ (Strawberry)

มาถึงคิวสตรอเบอร์รี่ (Strawberry) ผลไม้เพื่อสุขภาพที่เรารู้จักกันดี เป็นเบอร์รี่ยอดนิยมของคนไทย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Fragaria × ananassa จริงๆแล้ว สตรอเบอร์รี่นั้นเป็นพืชสังกัดสกุลไม้ดอกในวงศ์กุหลาบ ไม่ถูกจัดว่าเป็นกลุ่มเบอร์รี่ในทางพฤกษศาสตร์ (เป็นแค่ชื่อเท่านั้น)อย่างไรก็ดี เรามักจะคุ้นชินกับสตรอเบอร์รี่เป็นอย่างดี ถูกขนานนามว่าเป็นราชาของผลไม้สีแดง และเป็นผลไม้โปรดของใครหลายคน หารับประทานง่าย

เป็นผลไม้เมืองหนาวมาพร้อมกับความอร่อยและคุณค่าทางโภชนาการ มีหลากหลายสายพันธุ์ มากด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ กากใยสูง ช่วยทำให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง ลดความดันโลหิต สามารถทานสด ทำน้ำสตรอเบอร์รี่ปั่น หรือฝานบางๆ ใส่น้ำแร่เป็นน้ำอินฟิวส์ (Infused Water) และเมนูของหวานแสนอร่อยหลากหลาย รวมทั้งทำเป็นแยมสตรอเบอร์รี่


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Search

About

Lorem Ipsum has been the industrys standard dummy text ever since the 1500s, when an unknown printer took a galley of type and scrambled it to make a type specimen book.

Lorem Ipsum has been the industrys standard dummy text ever since the 1500s, when an unknown printer took a galley of type and scrambled it to make a type specimen book. It has survived not only five centuries, but also the leap into electronic typesetting, remaining essentially unchanged.