AI คืออะไร

AI คืออะไร AI สำหรับหลาย ๆ คน อาจจะเริ่มมาจากภาพยนตร์เรื่อง A.I. Artificial Intelligence ในปี 2001 ของ Steven Spielberg ซึ่งทำให้ AI เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น แม้ในอดีตจะมีภาพยนตร์ที่กล่าวถึง AI มาบ้างแล้ว แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้นับเป็นเรื่องแรก ๆ ที่นำเสนอ AI ในรูปแบบที่คล้ายคลึงกับมนุษย์มากที่สุด นั่นคือ มีความคิด ความรู้สึก และความรัก

AI คืออะไร ?
AI ย่อมาจาก Artificial Intelligence หรือในภาษาไทย เรียกว่า ปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งคือการพัฒนาคอมพิวเตอร์ให้สามารถทำงานได้เหมือนมนุษย์นั่นเองค่ะ

ในบทความนี้ จะกล่าวถึงการแบ่งประเภทของ AI ทั้งหมด 2 รูปแบบด้วยกัน นั่นคือ แบ่งประเภทจากระบบการประมวลผลของ AI และแบ่งประเภทจากระดับความสามารถของ AI

  1. แบ่งประเภทจากระบบการประมวลผลของ AI
    1.1 Reactive Machines Wbet69
    Reactive Machines เป็น AI ที่มีความสามารถค่อนข้างจำกัด ไม่มี memory เป็นของตัวเอง ซึ่งแปลว่าจะไม่สามารถใช้ข้อมูลเก่า ๆ ในอดีตมาพัฒนาการตัดสินใจของตัวเองให้ดีขึ้นได้ พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ Reactive Machines ไม่สามารถที่จะเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ทำได้แค่เพียงมีปฏิกิริยาโต้ตอบกับสถานการณ์ตรงหน้าเท่านั้น ตัวอย่างที่มีชื่อเสียงมาก ๆ ของ AI ประเภทนี้ คือ Deep Blue ของ IBM ที่สามารถโค่น Garry Kasparov แชมป์หมากรุกอันดับหนึ่งของโลกสำเร็จในปี 1997


1.2 Limited Memory
AI ประเภทนี้จะมี memory เป็นของตัวเอง และสามารถเรียนรู้จากข้อมูลเก่า ๆ เพื่อนำมาตัดสินใจหรือแก้ปัญหาในอนาคตได้ค่ะ เช่น หากเรานำรูปส้มกับแตงโมไปให้ AI ประเภทนี้ พร้อมบอกว่ารูปภาพไหนคือผลไม้ที่ชื่อ “ส้ม” และรูปไหนคือผลไม้ที่เรียกว่า “แตงโม” เมื่อได้รับข้อมูลรูปภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ AI ประเภท Limited Memory ก็จะสามารถบอกเราได้ว่าภาพแต่ละภาพนั้นคือส้มหรือแตงโม โดยหากยิ่งมีข้อมูลมากเท่าไร ระดับความถูกต้องแม่นยำก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ค่ะ (การระบุภาพของ AI ตามตัวอย่างดังกล่าวเรียกว่า Image Recognition)

1.3 Theory of Mind
มาต่อกันที่ AI ประเภทที่ 3 ลักษณะเด่นของ Theory of Mind ก็คือสามารถเข้าใจอารมณ์ความรู้สึก วัฒนธรรม ความเชื่อต่าง ๆ ของมนุษย์ได้ แต่ในปัจจุบัน AI ประเภทนี้ยังไม่มีใครสามารถพัฒนาขึ้นมาได้จริง เรียกได้ว่ายังต้องพัฒนาและค้นคว้ากันอีกไกลเลยทีเดียว

1.4 Self-Awareness
Self-Awareness เป็น AI ขั้นสูงสุด โดยจะมีอารมณ์ความรู้สึก ความเชื่อ ความต้องการเป็นของตัวเอง รวมถึงสามารถที่จะคิด เลือก และกระทำสิ่งต่าง ๆ ได้ด้วยตนเองทั้งหมด

  1. แบ่งประเภทจากระดับความสามารถของ AI
    2.1 Artificial Narrow Intelligence (ANI)
    AI ประเภท Artificial Narrow Intelligence (ANI) หรือ Weak AI จะสามารถทำงานบางอย่างแทนมนุษย์ได้ แต่จะจำกัดอยู่ในวงแคบ ๆ เท่านั้น นั่นคือ ต้องเป็นงานหรือทักษะที่ได้รับการโปรแกรมมาให้ทำเท่านั้น ไม่สามารถทำงานอื่นใดนอกเหนือจากนั้น หรือเรียนรู้ด้วยตนเองเพิ่มเติมได้ ที่เราเห็นใช้งานกันอยู่ทุกวันนี้ ทั้งหมดจัดได้ว่าอยู่ในประเภทนี้

2.2 Artificial General Intelligence (AGI)
Artificial General Intelligence (AGI) หรือ Strong AI มีสติปัญญาและสามารถทำงานต่าง ๆ ได้เทียบเท่ากับสมองของมนุษย์ เช่น สามารถคิดวิเคราะห์ วางแผน แก้ปัญหาที่ซับซ้อน เข้าใจเรื่องราวที่เป็นนามธรรม รวมถึงสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ในอดีตได้เหมือนกับที่มนุษย์ทำได้ แต่ในปัจจุบันเรายังไม่สามารถพัฒนา AI ชนิดนี้ขึ้นมาได้สำเร็จ

2.3 Artificial Super intelligence (ASI)
Artificial Super intelligence (ASI) เป็นสุดยอด AI ที่มีปัญญาเหนือกว่ามนุษย์ และแน่นอนว่าในปัจจุบันเรายังไม่สามารถพัฒนา AI ประเภทนี้ขึ้นมาได้ แต่ไอเดียการมีอยู่ของ Artificial Super intelligence (ASI) นั้น มักจะปรากฏอยู่ในสื่อต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเกมส์ ภาพยนตร์ ซีรี่ส์ หรือนวนิยายนั่นเอง

เชื่อว่าทุกคนคงเคยได้ยินคำว่า “AI” กันมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะมาจากโลกธุรกิจเองหรือจากภาพยนตร์ ซีรี่ส์ และเกมส์ต่าง ๆ สงสัยกันไหมว่าจริง ๆ แล้ว AI คืออะไร AI หมายถึงหุ่นยนต์ที่มีหน้าตาท่าทางรวมถึงพฤติกรรมคล้ายกับมนุษย์รึเปล่า วันนี้เราจะมาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันกับ Workspace


หนึ่งความเห็นตอบกลับที่ “AI คืออะไร กับโลกของอนาคตที่ทุกๆท่าน ควรทำความรู้จัก”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Search

About

Lorem Ipsum has been the industrys standard dummy text ever since the 1500s, when an unknown printer took a galley of type and scrambled it to make a type specimen book.

Lorem Ipsum has been the industrys standard dummy text ever since the 1500s, when an unknown printer took a galley of type and scrambled it to make a type specimen book. It has survived not only five centuries, but also the leap into electronic typesetting, remaining essentially unchanged.